CPU คือ ตัวประมวลผลหลักของคอมพิวเตอร์ เรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์จะมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ไหน ก็ต้องวัดกันที่สเปคของ CPU นี้แหละ โดยค่าที่สำคัญที่สุดของ CPU ก็คือความเร็วการทำงานของมันที่จะถูกวัดเป็นหน่วยที่เรียกว่า GHz ซึ่งวิธีดู CPU ง่าย ๆ ก็ดูว่า ไอเจ้าค่า GHz ตัวนี้ส่วนไหนมีมากกว่านั่นเอง ยิ่งมีมากก็ยิ่งประมวลผลได้เร็ว ซึ่งค่าความเร็วนี้ส่วนมากผู้ซื้อจะได้รับข้อมูลมาเป็น xx / xx GHz ซึ่งหมายถึงความเร็วทำงานทั่วไปและความเร็วสูงสุดนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน ค่าย CPU ก็แบ่งออกเป็น 2 ค่ายได้แก่ Intel หรือค่ายฟ้า และ AMD หรือค่ายแดง ซึ่งบังเอิญมีชื่อรุ่นของ CPU ที่ใกล้เคียงกันคือ Intel i3,5,7,9 และ Ryzen 3,5,7,9 ซึ่งถือว่ามีสเปคอยู่ในระดับเดียวกันพอดิบพอดี ฉะนั้นจึงสามารถนำมาอธิบายได้ง่าย ๆ ดังนี้
Intel i3, Ryzen3 |
คอร์รุ่นถูกสุด เหมาะกับการใช้งานธรรมดา พิมพ์เอกสาร เปิด Youtube ไม่เหมาะกับการเล่นเกม หรือทำงานกราฟฟิคเลย |
Intel i5, Ryzen5 |
คอร์ที่ใช้งานทั่วไปในคอมพ์หรือโน้ตบุคสำเร็จรูป เพียงพอต่อการเล่นเกมและการทำงานทั่ว ๆ ไปเช่นตัดต่อภาพอย่างง่าย |
Intel i7, Ryzen7 |
CPU ระดับกลางไปสูง เล่นเกมได้เกือบทุกเกมบนโลกอย่างลื่นไหล ทำงานกราฟฟิคงานทั่วไปได้สบาย รวมไปถึงงานอนิเมท 3D เล็ก ๆ น้อย ๆ |
Intel i9, Ryzen9 |
ถือว่า Over Spec สำหรับการเล่นเกมไปมาก เหมาะสำหรับสาย Hardcore ที่อยากเปิดเอฟเฟคแบบโหดจริง ๆ เท่านั้น ส่วนการทำงานใครที่ทำงานกราฟฟิคตัดต่อ ระดับสูง ก็ควรลงทุนกับ CPU ในระดับนี้ |
Tips – ปกติแล้ว CPU ของ Ryzen จะสเปคต่ำกว่า Intel เล็กน้อย เพราะตัวของ Ryzen ถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบ Multi- core (ทำงานหลายคอร์) เป็นหลักทำให้ได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกันกับ Intel (หรือแรงกว่า) สำหรับใครที่จะซื้อ CPU Ryzen มาใช้เองก็ต้องเลือก Main Board ที่รองรับ CPU ได้มากกว่า 1 ตัวด้วย
เวลาคอมพิวเตอร์เรากำลังทำงานอยู่นั้นเบื้องหลังของมันคือการส่งคำสั่งออกไปต่อคิวรอเพื่อให้ CPU ประมวลผล ซึ่ง RAM หรือหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ นั้นก็จะทำหน้าที่รับข้อมูล จัดคิวและส่งต่อไปให้ CPU ประมวลผล ซึ่งหน่วยความจำที่มากขึ้นก็จะทำให้คุณสามารถใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ พร้อมกันได้เยอะหรือรันโปรแกรมที่หนัก ๆ ได้ โดยสเปคของแรมจะแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 ส่วนได้แก่
พื้นที่ของ RAM ที่สามารถกักคำสั่งหรือชุดข้อมูลเอาไว้ก่อนส่งไปให้ CPU ประเมินผล เป็นส่วนที่ต้องใส่ใจมาก ๆ หากทำงานจำพวกกราฟฟิค ทั้งงานภาพเคลื่อนไหว ภาพนิ่ง หรือ 3D เพราะงานเหล่านี้เน้นการรับส่ง ข้อมูลปริมาณมาก ๆ ทำให้ผู้ใช้งานต้องมีพื้นที่ RAM สำหรับจัดเก็บคำสั่งเอาไว้จำนวนมาก โดย RAM ขั้นต่ำในปัจจุบันก็ไม่ควรต่ำกว่า 8GB แม้ว่าคุณจะไมได้ใช้เล่นเกมหรือทำงานก็ตาม แต่ก็ควรจัดสเปคคอมพิวเตอร์เอาไว้เผื่อการใช้งานในอนาคตด้วย
ส่วนความเร็วของ RAM นั้นจะมีผลกับการรับส่งข้อมูลเป็น Realtime โดยดูได้จากค่า Hz บนตัวเร็ม ยิ่งมีมากก็จะหมายถึงตัวของมันสามารถส่งสัญญาณได้รวดเร็วมากนั่นเอง ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับพวกเกม ที่มีการ Render กราฟฟิคตลอดเวลา สำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้ภาพคุณภาพสูง Frame rate แรง ๆ ต้องใส่ใจในส่วนนี้มากกว่าปริมาณของ RAM เสียอีก ส่วนสายกราฟฟิคนั้น ความเร็วแรมถือว่ามีส่วนเกี่ยวด้วยน้อยมาก ๆ ซึ่งความเร็วของ RAM นั้นควรจะซื้อให้สอดคล้องกับ Mainboard ของคุณ
Mainboard หรือ Motherboard ถือว่าเป็นจุดร่วมของชิปและการใช้งานของเราทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นตัวกำหนดความเร็วความแรงสูงสุดให้กับคอมพิวเตอร์เลยด้วยซ้ำ เพราะเมนบอร์ดนั้นเป็นเหมือนทางเชื่อมของสัญญาณของชิปต่าง ๆ เช่น จาก RAM ไป CPU ฉะนั้นต่อให้ชิปของคุณลื่นขนาดไหน แต่ถ้า Mainboard สามารถส่งสัญญาณได้ช้า คุณก็ต้องไปใช้ความเร็วของ Mainboard อยู่ดี แถมยังรวมไปถึงพอร์ตต่าง ๆ บนตัวเครื่องว่าจะรองรับอะไรได้เท่าไหร่อีกต่างหาก
Tips – 3 อย่างที่ต้องท่องตอนดู Mainboard ช่องเชื่อมต่อพอไหม, รองรับ RAM รุ่นอะไร, Bus Speed เท่าไหร่ ซึ่งถ้าเราไม่เก็ท ก็ถามคนที่ขายเราโดยตรงเลยก็ได้ว่าเรากำลังจะซื้อ RAM ตัวนี้ ใช้กับ Mainboard ตัวไหน จะช่วยลดความยุ่งยากไปได้อีกมาก
Hard Disk นั้น คือหน่วยความจำที่มีเอาไว้บันทึกข้อมูลส่วนมากของตัวเครื่อง เช่นไฟล์ และโปรแกรมต่าง ๆ ซึ่งการเปิดอ่านข้อมูลเหล่านั้นขึ้นมาก็จะต้องใช้ความเร็วในการอ่านของหน่วยความจำประเภทนี้ในการส่งข้อมูลไปให้ CPU และ RAM ด้วย ฉะนั้นแม้ว่าการทำงานของเครื่องโดยรวมจะมีการประมวลผลที่ไวแล้ว แต่ถ้าข้อมูลถูกส่งไปได้ช้า ก็ยังทำให้เกิดความไม่ลื่นไหลในระบบได้อยู่ ซึ่งในปัจจุบันหน่วยความจำเหล่านี้ก็จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ
ส่วนมือตัดต่อและนักทำกราฟฟิคนั้นก็จะไปออกผลในส่วนของการเรียกเปิดไฟล์/อ่านไฟล์ต่าง ๆ ซึ่ง SSD จะมีความเสถียรกว่ามาก และการเรนเดอร์ ที่เป็นการบันทึกงานที่เราทำลงเครื่อง เพราะนอกจากจะต้องใช้การประมวลผลของการ์ดจอและ CPU แล้ว การถ่ายโอนไปจัดเก็บถ้าทำได้รวดเร็วก็จะทำให้ส่วนอื่น ๆ สามารถทำงานได้เร็วขึ้นเช่นกัน
การ์ดจอ (GPU) คือประตูบานสุดท้ายของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จะทำการแสดงผลสิ่งที่ CPU ประมวลออกมาได้ให้กับผู้ใช้งานด้วยภาพ โดยปกติแล้วก็จะมีแถมมาให้กับ CPU บางตัว แต่นั่นก็สามารถใช้งานเพื่อแสดงผลหน้าจอต่าง ๆ ได้เท่านั้น แต่สำหรับงานภาพเคลื่อนไหว หรืองานที่มีสีสันมากขึ้น และมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่ขึ้น แน่นอนว่าคุณก็ต้องการการ์ดจอที่ดีขึ้นด้วยในการจัดสเปคคอม ภายใน GPU ประกอบไปด้วยชิปประมวลที่ลักษณะคล้าย CPU เล็ก ๆ อีกหลายพันตัวเพื่อใช้ในการประมวลผล Pixel ต่าง ๆ ละในบางรุ่นก็จะมี RAM ในตัวเอง ช่วยในการประมวลผลที่ลื่นไหลด้วย
ขนาด – พื้นที่ของ RAM ใน GPU ที่สามารถกักคำสั่งหรือชุดข้อมูลเอาไว้ระหว่างประมวลผล ซึ่งช่วยให้คุณสามารถ Render งานได้ลื่นไหลไม่ทำให้เครื่องหรือโปรแกรมค้าง
ความเร็วในการประมวลผล – วัดกันที่จำนวนและประเภทของ Core ที่อยู่ในตัวการ์ดจอ ซึ่งในส่วนนี้การ์ดจอสาย Graphics จะใช้ Core เยอะกว่าสาย Gaming มาก ๆ เพื่อเพิ่มความเร็วในการประมวลผลงาน หรือการ Render งานนั่นเอง
ขนาด – สำหรับการเล่นเกมขนาดของ RAM นั้นไม่ได้จำเป็นมากถ้าได้การ์ดจอที่มีความจุประมาณ 8 GB ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับเกมส่วนมากแล้ว
ความเร็วในการรับส่งข้อมูล – ความเร็วของ GPU นั้นจะมีผลกับการรับส่งข้อมูลเป็น ของตัวเกมที่เป็น Realtime ทำให้ตัวเกมมี Framerate ที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งสังเกตุได้ว่า การ์ดจอเกมมิ่งจะมี Clock Speed ที่ 1000 MHz ขึ้นไปในขณะที่สายกราฟฟิค จะอยู่ที่ประมาณ 4 – 500 MHz เท่านั้น
สุดท้ายนี้ ก็จะเห็นได้ว่าคอมพิวเตอร์ไม่ใช่จะซื้อแต่สเปคสูง ๆ แต่การใช้งานจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของสเปคในคอมพิวเตอร์ของเรา ฉะนั้นก่อนจะซื้อคอมซักตัวก็อย่าลืมถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องเอาไปใช้อะไรบ้าง เพื่อที่จะได้จัดสเปคให้ตรงโจทย์ของเรามากที่สุด นอกจากจะต้องดูเรื่องสเปคคอมให้ตรงตามที่ต้องการแล้ว การใช้งานโต๊ะคอมพิวเอตณืก็สำคัญ สำหรับใครที่กำลังมองหาโต๊ะคอมพิวเตอร์สวยๆ สามารถเลือกดูคะแนะนำเพิ่มเติมได้ ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการจัดคอม เราก็จะพยายามหยิบมานำเสนอเรื่อย ๆ คอยติดตามกันเอาไว้ได้เลย !
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 091-1206831